วัดสันติการาม ชื่อเดิม วัดสิงห์คต บางคนเรียกวัดสีคต ตั้งอยู่ริมคลองบางบาล ต.พระขาว อ.บางบาล
จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอบางบาลประมาณ ๖.๘ กม.
ตามทางหลวงชนบทหมายเลข ๔๐๑๖ วัดสีคต ได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดสันติการราม เมื่อ
พ.ศ.๒๔๙๗ เมื่อครั้งหลวงปู่ทิม
เป็นเจ้าอาวาส จากนั้นหลวงปู่ทิมก็ย้ายมาอยู่วัดพระขาว
ตามประวัติวัดสร้างราวปี
พ.ศ.๒๒๗๐ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาราว พ.ศ.๒๔๗๗ อยู่ในรัชสมัยพระเจ้าอยู่บรมโกศ(พ.ศ.๒๒๗๕ –
๒๓๐๑)แห่งกรุงศรีอยุธยา จากประวัติศาสตร์กล่าวว่าพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศซึ่งเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้าเสือ(พ.ศ.๒๒๔๖
– ๒๒๕๑) แห่งกรุงศรีอยุธยา พระองค์ทรงครองราชย์ยาวนานถึง ๒๖ ปี พระองค์ทรงมีความเลื่อมใสศรัทธาและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก โปรดเกล้า
ฯ ให้บูรณะปฏิสังขรณ์วัดวาอารามทั้งในกรุงศรีอยุธยาและในบรรดาหัวเมืองต่าง ๆ สำหรับริมฝั่งคลองบางบาล
มีหลายวัดที่สร้างในรัชสมัยของพระองค์ เช่น
วัดโบสถ์ วัดนกกระจาบ วัดไผ่ล้อม
วัดกำแพงแก้ว วัดจันทาราม(ตะโก) และวัดโพธิ์กบเจา เป็นต้น ตำนานของวัดที่เล่าสืบต่อกันมากล่าวว่า
ในสมัยโบราณครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีพื้นที่บริเวณวัดสีคต
จะเป็นที่พักช้างของทัพพม่าซึ่งตั้งค่ายหลวงอยู่ที่วัดสีกุก ต่อมามีช้างสำคัญได้ล้มลงพม่าจึงได้ฝังไว้ที่บริเวณวัดสีคต
ปัจจุบันคือใต้อุโบสถ และเป็นที่มาของการสร้างซุ้มประตูรูปช้างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
ชาวบ้านเล่าต่อว่า หลวงพ่อสุ่น (พ.ศ.๒๓๕๘ – พ.ศ.๒๔๔๗)
แห่งวัดบางปลาหมอ เป็นผู้บูรณปฏิสังขรณ์ ปัจจุบันยังมีรูปปั้นด้วยดินของท่านอยู่ในอุโบสถ นอกจากนี้ หลวงปู่ทิม ก็เคยเป็นเจ้าอาวาส ราว
พ.ศ.๒๔๙๓ – พ.ศ.๒๔๙๖
ภายในอุโบสถมีหลวงพ่อเพชรเป็นพระประธาน และมีรูปปั้นด้วยดินของหลวงพ่อสุ่น ว่ากันว่าหลวงพ่อสุ่นท่านปั้นเมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
วัดสีคตก็มีพระเกจิอาจารย์ที่เป็นหมอยา คือ หลวงพ่อพุฒ (พ.ศ.๒๔๓๘ – พ.ศ.๒๕๓๒) ท่านเป็นเกจิอาจารย์ในยุคสมัยเดียวกับ หลวงพ่อโบ วัดโคกหิรัญ หลวงพ่อสังข์ วัดน้ำเต้า และหลวงพ่อแปลก วัดโบสถ์
*************
No comments:
Post a Comment