Sunday, February 23, 2020

ศิลปในการใช้ชีวิตของ อิคิไก (IKIGAI)



IKIGAI (อิคิไก) คือ ศาสตร์ที่จะช่วยให้คุณอยากตื่นขึ้นมาในทุกๆวัน
คนอายุยืน 100 ปี มี อยู่ทั่วไปในญี่ปุ่น แต่ที่มีหนาแน่นก็คือเกาะโอกินาวา ที่มีคนอายุยืนมากเป็นพิเศษ จึงได้มีการทำวิจัยว่าอะไรทำให้อายุยืนและสรุปวิถีชีวิต ได้ออก มาเป็น IKIGAI (อิคิไก)
IKIGAI (อิคิไก) คือ ศาสตร์ที่ช่วยไขข้อข้องใจว่าเหตุผลในการตื่นมาใช้ชีวิตของเราในทุกๆวันนั้น คืออะไร หรืออีกนัยยะคือความหมายในการมีชีวิตอยู่นั่นเอง
ซึ่ง IKIGAI นี้เป็นสิ่งซ่อนอยู่ภายในตัวเรา ซึ่งต้องใช้ความพยายามและความอดทนในการค้นหามันให้เจอ
และนี่เป็น กฎ 10 ข้อของ IKIGAI ศิลปะในการใช้ชีวิตที่ Socialgiver อยากจะแบ่งปันให้ทุกท่านได้ร่วมค้นหาไปด้วยกัน
1) Stay active; don’t retire กระตือรือร้นกับชีวิตแบบไม่มีวันเกษียณ
เรียนรู้และตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ ต่างๆในโลก รักในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่สำคัญและมีคุณค่าต่อชีวิตตนเอง ทำหน้าที่ตนเองให้ดีที่สุด มีความก้าวหน้าทุกๆวัน และชื่นชมสิ่งดีๆรอบตัว

2) Take it slow ทำอะไรให้ช้าลง
เอ๊ะ!! อย่าเพิ่งงง ว่าขัดกับข้อแรกมั๊ย ที่จริงแล้วคือการคิดใคร่ครวญสิ่งต่างๆก่อนลงมือทำ มีวิสัยทัศน์และแผนงานที่ดีก่อน ว่าหากทำสิ่งนั้นสิ่งนี้แล้วจะเกิดผลลัพธ์อะไรขึ้นบ้าง ไม่ใช่กระตือรือร้นจนลนแบบทำอะไรรีบๆ ไม่ได้มองภาพใหญ่ระยะยาว

3) Don’t fill your stomach อย่ากินให้อิ่มเกินไป
หากอยากมีสุขภาพดี อายุยืน ต้องใช้กฎ 80 เปอร์เซ็นต์ ที่เรียกว่า hara hachibu คือให้หยุดกินทันทีเมื่อรู้สึกอิ่มแล้ว หรือคิดเป็นปริมาณ 1,200 – 1,500 แคลเลอรีต่อวันเท่านั้น โดยเน้นอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นกลุ่มผักและผลไม้สดทั่วๆไป

4) Surrounding yourself with good friends แวดล้อมด้วยเพื่อนดีๆ
เพื่อนคือยาที่ดีที่สุด การได้รับฟัง พูดคุย แบ่งปันทุกข์สุขกันกับเพื่อนๆ ให้คำแนะนำกันบ้าง หัวเราะขำขันกันบ้าง ไปเที่ยวด้วยกันบ้าง ทำให้ชีวิตของเรามีชีวาขึ้นทุกๆวัน ซึ่งจากงานวิจัยหลายที่ต่างให้ข้อมูลตรงกันว่า ความสัมพันธ์ที่ดี นำไปสู่สุขภาพจิตที่ดีและทำให้การทำงานของระบบต่างๆในร่างกายนั้นดีขึ้นอีกด้วย

5) Get in shape for your next birthday ฟิตร่างกายให้ดีต้อนรับวันเกิดปีหน้า
ร่างกายก็ต้องการได้รับการดูแลบำรุงรักษา คล้ายเครื่องยนต์ที่หากใช้งานทุกวันก็ต้องเสื่อมไปบ้างเป็นธรรมดา การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังผลิตฮอร์โมนเพื่อช่วยทำให้เรามีความสุขอีกด้วย

6) Smile ยิ้มเข้าไว้
การยิ้มทำให้จิตใจผ่อนคลายแล้วยังช่วยทำให้เรามีเพื่อนเพิ่มขึ้นได้ง่ายๆ เพราะกลไกทางจิตใจเรามีระบบจดจำความรู้สึกอัตโนมัติ (Facial expression effect) ที่ทำให้เรารับรู้ว่าหากเรายิ้ม อารมณ์เราจะดีขึ้น

7) Reconnect with nature เชื่อมต่อกับธรรมชาติ
เดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนตามแหล่งธรรมชาติต่างๆ เช่น ทะเล ภูเขา น้ำตก เพื่อชาร์ตแบตเตอรี่เพิ่มพลังงานให้ตัวเองอยู่เสมอๆ เพราะเราต่างเชื่อมโยงเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติและโลกใบนี้ การได้รับออกซิเจนที่มากพอ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ คือความสุขโดยธรรมชาติของมนุษย์ทุกคน

8) Give thanks ขอบคุณในสิ่งที่เรามี
ความรู้สึกขอบคุณและกตัญญูต่อบุคคลและสิ่งต่างๆ เริ่มตั้งแต่บรรพบุรุษ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม อาหาร และสิ่งที่เรามี จะทำให้เรารู้สึกโชคดีที่ได้มีชีวิตอยู่และจะยิ่งเพิ่มพูนความสุขให้เราในทุกๆวัน

9) Live the moment อยู่กับปัจจุบันขณะ
หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตและกลัวหรือกังวลสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต วันนี้และ ขณะนี้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ!! ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าและน่าจดจำ เพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมาและผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และหาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน

10) Follow your IKIGAI...

*************
Cr.Fwd line

Saturday, February 15, 2020

วัดบางกระทิง


            สวัสดีค่ะ  วันนี้วันพระ ตรงกับวันแรม ๘ ค่ำ เดือน สาม วันนี้ยังคงอยู่ที่แม่น้ำน้อย ซึ่งครั้งหนึ่งในอดีตเป็นเส้นทางที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้เคยเสด็จประพาสต้น (ครั้งที่ ๒) ใน พ.ศ.๒๔๔๙  ขอพาไปไหว้พระที่วัดเก่าสมัยอยุธยาอีกวัดหนึ่งมีอายุราว ๓๓๓ ปี วัดบางกระทิง ค่ะ
#วันนี้วันพระ  #วัดบางกระทิง  #เสนา  #พระนครศรีอยุธยา  #เล่าสู่กันฟัง 



       วัดบางกระทิง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อย ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา  ตามประวัติวัดสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ราว พ.ศ.๒๒๓๐   นัยว่าพระยาสีหราชเดโชชัย (ทิป) เป็นผู้นำการสร้างโดยสร้างในพื้นที่ที่ติดกับบ้านของท่าน  พระยาสีหราชเดโชชัย (ทิป) นี้เป็นผู้มีความสามารถทางไสยศาสตร์ คงกระพันชาตรี และหายตัวได้ มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่าครั้งหนึ่งพระยาสีหราชเดโชชัย (ทิปคุมกองทัพเข้าต่อสู้กับพม่าอย่างเข้มแข็ง แต่ถูกพม่าจับตัวไว้ได้ และถูกจองจำไว้อย่างแข็งแรง แต่ท่านสามารถหนีกลับออกมาได้ และกล่าวกันว่าพระพิมพ์หลวงพ่อโต วัดบางกระทิง ก็สร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์นี่เอง  การก่อสร้างวัดมาแล้วเสร็จในต้นแผ่นดินพระเทพราชาพระญาติราชวงศ์บ้านพลูหลวงได้มาสร้างเพิ่มเติมจน สำเร็จเรียบร้อย และตั้งชื่อว่าวัดใหม่บางกะทิง  มีหลักฐานปรากฏความเป็นมาของวัดอีกครั้งหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เนื่องจากกระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางได้มีการย้ายและปฏิสังขรณ์วัดโดยพระยาประสิทธิ์ (น้อย) เป็นหัวหน้าในการปฏิสังขรณ์ครั้งนี้ และได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า “วัดใหม่เจ้าพระยามัคคาราม” แต่ชาวบ้านเรียกกันสั้นๆว่า วัดใหม่ กันเรื่อยมา และก็กลับมาใช้นามวัดอย่างเดิมในที่สุด 





    วัดบางกะทิงนี้เป็นวัดที่มีโบราณวัตถุอันศักดิ์สิทธิ์ คือ พระพิมพ์หลวงพ่อโต ที่มีพุทธานุภาพมาตั้งแต่ครั้งอดีตจนถึงปัจจุบันนี้ และเป็นวัดที่สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี วัดระฆัง ธนบุรี ได้เคยมาจำพรรษา ในช่วง พ.ศ. ๒๓๘๕๒๓๙๓ ในรัชสมัยรัชกาลที่ ๓ ท่านได้มาจำพรรษาที่วัดบางกระทิง และได้สร้างพระพิมพ์ ”หลวงพ่อโต” ไว้จำนวนหนึ่ง จากนั้นท่านใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการธุดงค์ ไปตามสถานที่ต่าง ๆ ตามที่เล่าต่อกันมาว่าท่านมาวัดบางกระทิงหลายครั้ง  และในปี พ.ศ. ๒๔๐๔ ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จ ฯ ขณะท่านได้รับสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเป็นที่พระเทพกวีแล้ว ขณะนั้นท่านมีอายุได้ ๗๔ ปี ท่านได้ขึ้นมาที่วัดบางกะทิงอีกครั้งหนึ่ง ขึ้นมาครั้งนี้ เพราะที่วัดบางกะทิงจะทำการซ่อมอุโบสถ โดยมีคุณหญิงตุ้ม ซึ่งเป็นบุตรีของพระยาประสิทธิ์(น้อย) ซึ่งเป็นผู้รู้จักคุ้นเคยกับเจ้าพระคุณสมเด็จ ฯ เป็นหัวหน้าในการปฏิสังขรณ์อุโบสถ และในการนี้ ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จ ฯ จึงนำเอาพระพิมพ์ที่ท่านสร้างขึ้นไว้เอาบรรจุกรุ รวมกับของเก่าในอุโบสถด้วย วัดบางกระทิงได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลาต่อมา  


        เจ้าอาวาสองค์สำคัญที่บูรณปฏิสังขรณ์วัด จนปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน คือ พระครูพิศิษฐ์สังฆการ (สมบูรณ์  อิสิญาโณ )( พ.ศ.๒๔๔๔ – พ.ศ.๒๕๑๒) เจ้าอาวาสลำดับที่ ๗  ท่านเป็นเจ้าอาวาสเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๑  และท่านได้บูรณปฏิสังขรณ์อุโบสถอีกครั้ง โดยมีหลวงพ่อลับ “พระสุวรรณวิมลศีล” (พ.ศ. ๒๔๐๙ – พ.ศ.๒๔๙๑) วัดบันไดช้าง ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่าน เป็นผู้สนับสนุนการบูรณปฏิสังขรณ์อุโบสถในครั้งนี้  และได้มีการเปิดกรุพระพิมพ์หลวงพ่อโตซึ่งอยู่ในหลุมลูกนิมิตเก่าจำนวนหนึ่ง ท่านจึงนำออกแจกจ่ายให้ผู้มีศรัทธาร่วมการกุศล...เป็นที่มาของ พระพิมพ์ หลวงพ่อโต กรุวัดบางกระทิง....ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ...




******************





Friday, February 14, 2020

กฏธรรมชาติ

Cr.Fwd.line


ขอนับถือและชื่นชม  คนที่เขียนข้อความข้างล่างนี้
และขอขอบคุณคนที่ส่งต่อมาให้

หาตัวเอง...ให้พบ
คบตัวเอง...ให้ได้
ใช้ตัวเอง...ให้คุ้ม
คุมตัวเอง...ให้อยู่
รู้ตัวเอง...ให้จริง
ชีวิตก็เหมือนดั่งเทียน
ถูกจุดขึ้นมาเพื่อรอวันดับ
ชีวิตเราเกิดมาคนเดียว
ก็ไปคนเดียว
อย่าคาดหวังอะไรจากใคร
สิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ตัวเราเอง
อยู่ที่การดำเนินชีวิต
เราไม่ต้องแก้ดวงแก้กรรมหรอก
ให้แก้เพียง " พฤติกรรม "ของเราก็พอ
เพชรดี...ให้ดูที่เหลี่ยม
ผ้าดี...ให้ดูที่ลาย
ดอกไม้ดี...ให้ดูที่สี
คนดี...ให้ดูที่การกระทำ
พรุ่งนี้กับชาติหน้า
ไม่รู้ว่าอะไรจะมาก่อนกัน
หมั่นเร่งสะสมบุญกุศลกันเถอะ
เพราะอย่างน้อยเวลาตาย
บุญจะได้ส่งให้ไปที่ดีดี
มนุษย์เราไม่ได้เกิดมา
เพื่อหาความหมายของชีวิต
แต่เราเกิดมา
เพื่อใช้ชีวิตให้มีความหมาย
" บุญ "" บาป "
ใครก็จับใส่มือเราไมได้
มีแต่เราเท่านั้น
ที่เป็นผู้กระทำขึ้นมาเอง
สิ่งที่คนอื่น
ทำกับคุณ..คือ
กรรมของเขา
แต่สิ่งที่คุณเลือก
ตอบโต้เขา..คือ
" กรรมของคุณ "
อดทนให้ได้ดั่งก้อนหิน
ติดดินให้ได้ดั่งต้นหญ้า
เข้มแข็งให้ได้ดั่งเหล็กกล้า
อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอดั่งธารา
จะกี่คำพูด กี่คำนินทา
ก็แค่ลมปากที่ลอยผ่านมา
แล้วลอยผ่านไป
**รักใครชอบใคร ส่งต่อไปได้บุญครับ**
*************
Cr.Fwd Line


Friday, February 7, 2020

วัดประดู่โลกเชฏฐ์


วัดประดู่โลกเชฏฐ์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน้อย อยู่ตรงกันข้ามกับวัดบันไดช้าง  ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ตามประวัติวัด สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๓๒๕  ได้รับวิสุงคามสีมา พ.ศ.๒๓๓๕  เป็นวัดราษฏร์ ไม่เคยเป็นวัดร้าง มีเจ้าอาวาสที่ปรากฏชื่อเล่าสืบต่อกันมารวม ๘ รูป  ไม่ปรากฏชื่อผู้สร้าง สันนิษฐานว่าคงจะเป็นเช่นเดียวกับวัดในย่านนี้ซึ่งมีหลายวัดและมีที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ลักษณะพุทธาวาสเหมือนกับ วัดบันไดช้าง (คลิก)  ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งสันนิษฐานกันว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลายโดยเจ้านายชั้นสูง สำหรับวัดประดู่โลกเชฏฐ์ สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งน่าจะมีลักษณะความเป็นมาในการสร้างคล้ายกัน 


       ศาสนวัตถุที่สำคัญ คือ เขตพุทธาวาส ประกอบด้วย อุโบสถ วิหารด้านหน้าสองหลัง และเจดีย์ (คล้ายกับวัดบันไดช้าง) 




วิหารหลวงพ่อศรีอารย์ ซึ่งถือว่าเก่าที่สุดของวัด


 มณฑปบูรพาจารย์ประดิษฐานรูปปั้นหลวงพ่อเณรและหลวงพ่อเจาะ  


       เจ้าอาวาสที่ปรากฏชื่อและมีความสำคัญคือหลวงพ่อเณรและหลวงพ่อเจาะ ซึ่งถือว่าเป็นพระสงฆ์ที่ได้รับการเคารพศรัทธาของคนในชุมชนเป็นอย่างมาก  พระสงฆ์อีกองค์หนึ่งซึ่งถือได้ว่ามีความสำคัญในการทำนุบำรุงพระศาสนาคือ หลวงพ่อลับ “พระครูเขมาภิรมย์ หรือ พระสุวรรณวิมลศีล” (พ.ศ. ๒๔๐๙ – พ.ศ.๒๔๙๑) ท่านเป็นเกจิอาจารย์  ๖ แผ่นดินองค์สำคัญของอำเภอเสนา  เจ้าอาวาสวัดบันไดช้าง   หลวงพ่อลับท่านเคยจำพรรษาที่วัดประดู่โลกเชฏฐ์  น่าจะอยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่หลวงพ่อเณรเป็นเจ้าอาวาส และท่านก็ยังช่วยดูแลวัดมาโดยตลอดและได้มาสร้างโรงเรียนวัดประดู่โลกเชษฐ์(สุวรรณประมุขวิทยาคาร) เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๒  



        สำหรับหลวงพ่อเจาะ (พ.ศ.๒๔๓๐ – พ.ศ.๒๕๑๒) อดีตเจ้าคณะตำบลหัวเวียง  เจ้าอาวาสลำดับที่ ๕  ท่านเป็นศิษย์ร่วมสำนักกับหลวงปู่เกลี้ยง วัดตะกู  บางบาล  หลวงพ่อเจาะ และหลวงปู่เกลี้ยง ถือเป็นศิษย์เอกของ หลวงพ่อเณร เจ้าอาวาสวัดประดู่โลกเชษฐ์(ลำดับที่ ๓)  เกจิอาจารย์ในอดีตของอำเภอเสนา  ปัจจุบัน พระครูโกศลวิหารกิจ เป็นเจ้าอาวาส(ลำดับที่ ๘) 

    หลวงพ่อทันใจ  ประดิษฐานอยู่ใกล้ๆกับสระแก้ว หรือสระแก้วสารพัดนึก สระน้ำมนต์หลวงพ่อเจาะ  ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ใครมาขอน้ำมนต์ท่านจะให้ไปตักน้ำที่สระน้ำมนต์แห่งนี้  ว่ากันว่าช่วงเกณฑ์ทหารจะมีคนมาขอน้ำมนต์ท่านเยอะมาก...




ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ...
*************

จิตกับอารมณ์

ธรรมบรรยาย พระภาวนาเขมคุณ วิ. (หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี)